จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562

ชาวบ้านบุ่งตาข่าย อ.วังสะพุง ปลูกผักคราด “ต้นหม่าล่าอีสาน” สร้างรายได้งาม แค่ 4 เดือน รับ 2 ล้านบาท




ชาวบ้านบุ่งตาข่าย อ.วังสะพุง ปลูกผักคราด “ต้นหม่าล่าอีสาน” สร้างรายได้งาม แค่ 4 เดือน รับ 2 ล้านบาท

ที่หมู่บ้านบุ่งตาข่าย  ต.ปากปวน  อ.วังสะพุง  จ.เลย   ชาวบ้านได้พากันปลูกผักคราด หรือภาษาท้องถิ่นวังสะพุงเรียกว่าผักฮาด ผักพื้นบ้าน ที่ชาวอีสานและชาวภาคเหนือนิยมนำไปใส่ในอาหาร เช่น เอาะ แกงอ่อม หรือหมกชนิดต่างๆ  โดยปลูกบนที่นาหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเรียบร้อยแล้ว  ทั้งหมู่บ้านปลูกรวมกันกว่า 10 ไร่   ส่งขายที่ตลาดในตัวจังหวัด  สร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรกว่ารายละ 50,000 – 100,000 บาท  ในระยะเวลาเพียง 4 เดือน ไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินซื้อยาปราบศัตรูพืช และใช้พื้นที่น้อยกว่าปลูกข้าวโพด ต้นทุนเงินและแรงต่ำกว่ามาก  ใช้พื้นที่เพียง 1-2 งาน  ก็ขายได้เดือนละ 8,000 บาทแล้ว  ทั้งหมู่บ้านมีรายได้จากการขายผักคราด รวมกว่า 2 ล้านบาทต่อหนึ่งฤดูกาลเลยทีเดียว
 นางบุญแย้ม  ศักดาพิทักษ์  หรือแม่คิว  เกษตรกรผู้ปลูกผักคราด บ้านบุ่งตาข่าย เปิดเผยว่า  ปลูกพืชชนิดนี้มานานประมาณ 10 ปี แล้ว  ก่อนที่จะเริ่มปลูกนั้น เห็นเพื่อนบ้านไปเอาต้นพันธุ์จากอำเภอหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์  เพราะต้นผักคราดแถวบ้านจังหวัดเลยหายากมาก แทบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว เพราะพื้นดินเต็มไปด้วยสารเคมี ยาปราบศัตรูพืช  ซึ่งที่หล่มสัก ผักคราดขึ้นอยู่ตามนาข้าวโพด เป็นวัชพืช ชาวบ้านแถวนั้นเขาไม่เอา ก็ให้ชาวบ้านบุ่งตาข่ายมาโดยไม่คิดเงิน  เพื่อนบ้านก็เอามาปลูกเป็นคนแรก  ปรากฏว่าขายดีมาก ระยะเวลาเพียง 4 เดือน ขายได้เงินกว่า 1 แสนบาท   หลังจากนั้น ชาวบ้านบุ่งตาข่ายก็พากันไปขอเอาต้นพันธุ์จากหล่มสักมาปลูกด้วย  ส่วนตนใช้ที่นา หลังจากเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว รวมพื้นที่เกือบสองงาน 


การปลูกก็ทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก  นำต้นพันธุ์มาปักลงดินที่เตรียมแปลงไว้ ใส่ปุ๋ยคอกและฟางรองพื้นดิน หมั่นรดน้ำ  และหมั่นถอนหญ้าออก  ใช้เวลาเพียง 1 เดือน ก็สามารถเก็บยอดไปขายได้แล้ว โดยมีแม่ค้าที่ตลาดเช้าเทศบาลเมืองเลยสั่งซื้อไม่อั้น เก็บในรอบ 3 วันจะนำใส่รถกระบะไปส่งลูกค้า ราคา 6 กำ 20 บาท  เก็บได้เรื่อยๆ ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม  หากใครมีกำลังแรงพอปลูกไปถึงเดือนเมษายน หรือหน้าแล้ง  ผักคราดจะราคาดีกว่าช่วงนี้มาก  จากที่ตนปลูกมาเป็นระยะเวลา 10 ปี  สร้างรายได้เสริมเป็นอย่างดี จนสามารถส่งลูกเรียนจบปริญญาตรีไปแล้ว 1 คน   เพื่อนบ้านบางคนทิ้งไร่ข้าวโพดมาปลูกผักคราดขายเป็นรายได้หลัก  เพราะต้นทุนต่ำกว่า ใช้พื้นที่น้อยกว่า  แต่รายได้สูงกว่า  และที่สำคัญไม่ต้องเสี่ยงรับสารพิษหรือสารเคมีปราบศัตรูพืชเข้าร่างกายด้วย


อย่างไรก็ตาม  การปลูกผักคราดต้องคอยดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด หมั่นรถน้ำและกำจัดหญ้า  หากดูแลไม่ดีพอก็จะเป็นโรคใบแห้ง ขายไม่ได้ราคา  เคยมีชาวบ้านจากที่อื่นนำต้นพันธุ์ไปปลูก  แต่ไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร  ซึ่งอาจเป็นเพราะสภาพดินและสภาพอากาศของหมู่บ้านบุ่งตาข่ายเหมาะสมที่สุดสำหรับผักชนิดนี้  นางบุญแย้มกล่าว

 ทั้งนี้ ผักคราด มีรสชาติจืดๆมันๆ รับประทานแล้วจะรู้สึกชาที่ลิ้นชั่วขณะ หรือชาวอีสานเรียกว่ามันกระเด้าลิ้น คล้ายผงหม่าล่า  เครื่องปรุงรสประเภทปิ้งย่างจากประเทศจีน ที่กำลังนิยมอย่างมากในประเทศไทย   ผักคราดจัดเป็นผักและยาสมุนไพร และเป็นหนึ่งในยาสมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน อีกทั้งทางด้านเภสัชวิทยาช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านยีสต์ ต้านไวรัส ยับยั้งการหดเกร็งของลำไส้ ลดความดันโลหิต เพิ่มฤทธิ์ของฮิสตามีนในการทำให้ลำไส้หดเกร็ง  ปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกันฆ่ายุง  ฆ่าลูกน้ำยุง  ทำให้ชัก เป็นยาชาเฉพาะที่ แก้ปวด ลดความแรงและความถี่ของการบีบตัวของหัวใจห้องบน ยับยั้งการหดตัวของมดลูกซึ่งเหนี่ยวนำด้วย


ต้นผักคราด สามารถใช้ประโยชน์ทางยาได้ทุกส่วน  ใบช่วยให้แก้ปวดศีรษะ แก้โลหิต เป็นพิษ  , ดอก ขับน้ำลาย แก้โรคในคอ แก้ปวดฟัน แก้โรคติดอ่างในเด็ก รักษาแผลในปากในคอ แก้โรคลิ้นเป็นอัมพาต  , เมล็ด เคี้ยวแก้ปากแห้ง  ,ลำต้น แก้พิษตานซาง แก้ริดสีดวง แก้ผอมเหลือง แก้บิด แก้เลือดออกตามไรฟัน ชงดื่ม ขับปัสสาวะ แก้หอบไอ แก้ไอกรน แก้ปวดบวม แก้ไขข้ออักเสบ แก้คันคอ แก้ทอนซิลอักเสบ แก้งูรัด สุนัขกัด พอกแก้พิษปวดบวม  และส่วนรากใช้ต้มดื่ม เป็นยาถ่าย อมบ้วนปากแก้อักเสบในช่องปาก เคี้ยวแก้ปวดฟัน.


ภัทราวุธ  บุญประเสริฐ  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์ จ.เลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น